จดหมายผู้บริหาร

ในโลกปัจจุบันนั้น ความรู้เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการทำงานในองค์กรต่างๆแล้ว หากแต่ควรมีความรู้ (Knowledge) ควบคู่กับทักษะพื้นฐานของศตวรรษที่ 21 (Skill) และทัศนคติที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น (Attitude)  เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บุคคลนั้นๆ มีความสมบูรณ์และความพร้อมที่จะทำงานและ/หรือใช้ชีวิตในยุค 4.0 นี้ได้อย่างไม่ลำบากนัก

เมื่อก่อน เรามักได้ยินคำว่า เรียนให้เยอะ เรียนให้สูง จบมาจะได้เป็นเจ้าคนนายคน แต่เดี๋ยวนี้คำพูดนี้ไม่จริงเสมอไป ในยุค Disruption หรือยุคของการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างสิ่งที่ดีกว่านี้ คนเรียน ไม่ได้สนใจหลักสูตรในสถานศึกษาเท่าใด เช่นเดียวกันกับองค์กรบริษัทต่างๆก็มิได้ใส่ใจมากนักว่าคนที่สมัครงานเข้ามามีวุฒิอะไร หากแต่ดูว่า คนคนนั้นทำงานได้ มีความสามารถ ร่วมงานกับคนอื่นได้หรือไม่ เพราะความรู้ในปัจจุบันสามารถหาได้ทุกที่ ทุกเวลาเพียงปลายนิ้วสัมผัสและไม่จำกัดอายุ อาชีพ ชนชั้น กล่าวง่ายๆว่า ความรู้เข้าถึงได้ง่ายมากขอเพียงขยันศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองก็สามารถเป็นกูรูในเรื่องที่ตนเองสนใจได้ไม่ยาก

นอกเหนือจากความรู้แล้วนั้น ทักษะ และความชำนาญเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่สำคัญที่เยาวชนหรือบุคลากรในองค์กรควรมีเพื่อสนับสนุนการเรียนหรือการทำงานให้มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้จากการฝึกฝน ปลูกฝัง สนับสนุนและสร้างโอกาสเพื่อให้คนนั้นๆได้แสดงความสามารถ ตลอดจนทำบ่อยๆจนเป็นทักษะ และสั่งสมจนเป็นความชำนาญ จะเห็นได้ว่า ต้องใช้เวลาและโอกาสเพื่อให้เกิดเป็นความสามารถและทักษะ ดังนั้นการพัฒนาบุคลากรในปัจจุบันจะเน้นการลงมือทำและส่งเสริมให้เกิดการฝึกฝนในระยะเวลาที่มีนัยสำคัญ การเรียนการสอนในสถานศึกษาปัจจุบันจะเริ่มเน้นแบบ Learning by Doing (การเรียนรู้จากการลงมือกระทำ) และ Active Learning (การเรียนรู้แบบเชิงรุก) เพื่อให้ผู้เรียนมีโอกาสได้ลองลงมือทำจริงๆ นอกเหนือจากความสามารถในการปฏิบัติงานแล้ว ทักษะการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นก็เป็นอีกหนึ่งทักษะที่ต้องได้รับการฝึกฝนให้เรียนรู้ เพราะคนปัจจุบันมีโอกาสที่จะมีโลกส่วนตัวสูงกว่าคนในสมัยก่อนจากภาวะสังคมที่เป็นเชิงเดี่ยวมากขึ้นหรือแม้กระทั่งเทคโนโลยีต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย ฯ

ทัศนคติ หรือ Attitude เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญไม่แพ้จากสองข้อด้านบน เพราะในเรื่องของทัศนคตินั้นจะสามารถส่งผลออกมีเป็นการกระทำได้ไม่มากก็น้อย การใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันหากหวังความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่คงต้องยอมรับว่าไม่สามารถทำเพียงคนเดียวได้ ดังนั้นการมีทัศนคติที่ดีต่อตนเอง จะทำให้รู้ว่าชีวิตมีคุณค่า มีพลังบวกเพพียงพอที่จะเผื่อแผ่ความดีงามนั้นไปสู่คนรอบข้าง ตัวเรามีความสุขอย่างแน่นอน จากนั้น เมื่อเรามีทัศนคติที่ดีต่อผู้อื่น ความรักความปรารถนาดีของเราก็จะถูกส่งต่อออกมมาเป็นคำพูดที่ดี การกระทำที่ดี คนที่เรามีปฏิสัมพันธ์ด้วยในด้านใดก็ตาม ก็จะมีความสุข การปฏิบัติงานใดๆก็สำเร็จ ราบรื่น ปัญหาใหญ่มีก็กลายเป็นปัญหาเล็ก จากปัญหาเล็กก็กลายเป็นไม่มีปัญหา

การมีสมรรถนะที่สมบูรณ์นั้นจักต้องใช้องค์ประกอบหลายอย่าง กล่าวคือ 1. มีปัจจัยนำเข้าที่เหมาะสม เช่น ข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องครบถ้วน  ผู้ถ่ายทอดความรู้ดีมีประสิทธิภาพ สิ่งแวดล้อมโดยรอบสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ เวลาในการลงมือทำมีระยะเวลาที่มีนัยสำคัญสิ่งอำนวยความสะดวกเอื้อต่อการเรียนรู้และลงมือทำ 2. มีกระบวนการเรียนรู้ทีมีประสิทธิภาพ สนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ มีพื้นที่ให้บุคลากรได้แสดงออกถึงความสามารถและความสร้างสรรค์ สร้างภาวะผู้นำ ความสามัคคี ส่งเสริมให้เกิดการทำงานเป็นทีมควบคู่ไปกับการพัฒนาตนแบบรายบุคคล รวมไปถึงการเข้าใจคามสำคัญของการแบ่งปัน สุดท้ายเราสามารถคาดหวังได้ว่า  บุคลากรใดๆทที่ผ่านกระบวนเหล่านี้มาแล้วจะเป็นผลผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพและสามารถสร้างสิ่งดีๆให้กับสังคม ควบคู่ไปกับการเจริญเติบโตและสำเร็จตามสิ่งที่มุ่งหวังได้

KRSC Thailand,  Resort & Scout Camp จึงเปรียบเหมือนพื้นที่ที่ถ่ายทอดแนวคิดการพัฒนาบุคลากรแบบ Active citizen โดยการสรรค์สร้างและสรรหาปัจจัยนำเข้าและกระบวนการที่มีประสิทธิภาพภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา โดยยึดหลักแนวคิดที่ว่า “สนุกสนานอย่างค่าย อบอุ่นเหมือนบ้าน รื่นรมย์กับธรรมชาติ”

ด้วยรัก

ดร.เลิศจันฑา สีเหลืองสวัสดิ์

ปริญญาเอกด้านการเรียนรู้เพื่อการส่งเสริมทักษะแห่งศตวรรษที่ 21